โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ดูเต็มขึ้น หรือดูดีขึ้น โดยฟิลเลอร์เป็นกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือ เอชเอ (HA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายของเรา

อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก

ความจริงแล้วฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้ทุกส่วนของใบหน้า เนื่องจากเป็นสารเติมเต็ม เราจะเติมเข้าไปในส่วนที่เป็นร่อง เป็นหลุม หรือไม่ได้สัดส่วน แต่อาจจะมีจุดที่ต้องระวัง เช่นบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินค่ะ แต่หลัก ๆ แล้วฟิลเลอร์นิยมฉีดตามจุดต่าง ๆ ดังนี้

การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์นั้น สามารถปรับรูปหน้าให้ดูได้สัดส่วน หรือดูเต็มขึ้นได้ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม เราสามารถเติมเข้าไปบริเวณที่ต้องการเพื่อให้ใบหน้าดูดีขึ้น ซึ่งร่างกายของคนเราจะมีความเสื่อมไปตามธรรมชาติ เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอาจจะทรุด คอลลาเจนอาจจะหายไป ทำให้หน้าเป็นหลุม เป็นร่อง ดูไม่สวย ฟิลเลอร์สามารถเติมเข้าไป เพื่อแก้ปัญหาจุดนี้ได้ค่ะ

ทำไมต้องฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์?

ฟิลเลอร์ช่วยแก้ปัญหา หน้าแก่ หน้าโทรม หรือหน้าไม่ได้สัดส่วน ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องผ่าตัด ระยะเวลาในการฉีดไม่นาน ซึ่งมีข้อดีมากมาย และเหตุผลที่เราควรฉีดฟิลเลอร์ มีดังนี้

• เติมเต็มร่องลึก : ช่วยลดร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า เช่นร่องแก้ม ร่องใต้ตา ร่องน้ำหมาก รวมไปถึงหลุมสิว
• ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน : ช่วยเติมเต็มส่วนที่ยุบตัว เช่น ขมับ ใต้ตา คาง และทำให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้น
• เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว : ฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูอิ่มฟู ไม่แห้งกร้าน
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน : การฉีดฟิลเลอร์จะกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

ประโยชน์ของการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สวยขึ้น ดูดีขึ้น ซึ่งมีข้อดีหลักดังนี้

• ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน : ฟิลเลอร์สามารถใช้ปรับรูปหน้า ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก
• เห็นผลทันที : หลังฉีดจะเห็นผลลัพธ์ทันที และจะเห็นผล 100% ใน 2-3 สัปดาห์หลังฉีด
• ไม่ต้องพักฟื้น : หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เลย แต่ไม่ควรกด แคะ แกะ เกา บริเวณที่ฉีด 2 สัปดาห์
• มีความปลอดภัยสูง : เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ และฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
• ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ : สามารถปรับเปลี่ยนปริมาณ และจุดฉีดได้ตามต้องการ
• สามารถฉีดสลายได้ : หากได้รับการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์แล้ว ไม่พึงพอใจ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทุกเมื่อ

ข้อควรระวัง

• เลือกคลินิกและแพทย์ : ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูง
• ปรึกษาแพทย์ : ก่อนทำการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา และแพทย์จะเป็นผู้เลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
• ผลข้างเคียง : อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน

1. Juvederm : ฟิลเลอร์จากอเมริกา คุณภาพดีเยี่ยม เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูง และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ของประเทศไทย (THFDA) และสหรัฐอเมริกา (USFDA) โดยฟิลเลอร์ Juvederm ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันกับ ที่ผลิตโบท็อกซ์ Allergan โดยฟิลเลอร์ Juvederm จะอยู่ได้นาน 2 ปี
2. Restylane : ฟิลเลอร์จากสวีเดน อีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ใช้เทคโนโลยีการผลิต ที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ และเมื่อฉีดแล้วดึความเป็นธรรมชาติ โดยฟิลเลอรื Restylane จะอยู่ได้นาน 1 ปี
3. Neuramis : ฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้ ที่มีจุดเด่นเรื่องราคาที่ประหยัดกว่าทางฝั่งยุโรปและอเมริกา แต่คุณภาพดีเยี่ยม โดยฟิลเลอร์ Neuramis จะอยู่ได้นาน 6-8 เดือน
4. Belotero : เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ จุดเด่นคือเนื้อละเอียดและอ่อนนุ่ม เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ ให้เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์ Belotero จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน

สิ่งที่สำคัญที่สุด ก่อนที่คิดจะไปฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ ไม่ใช่เป็นการเลือกยี่ห้อฟิเลอร์ แต่คือการเลือกหมอที่ฉีด เพราะหมอที่มีประสบการณ์ จะรู้ว่าปัญหาของใบหน้าเราคืออะไร และควรเติมฟิลเลอร์กี่ CC ถึงจะแก้ปัญหาบริเวณนั้นได้ และยังมองถึงภาพรวมของใบหน้า ว่าควรเติมตรงไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อีกทั้งหมอที่มีประสบการณ์ จะรู้วิธีการฉีดที่หลบเส้นเลือดสำคัญได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก หากฉีดโดนเส้นเลือด ดังนั้นการเลือกหมอ จึงมีความสำคัญมาก

หมอบอล (นายแพทย์ชัชวาลย์ ศรีชยานุรักษ์) เป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ โดยคุณหมอมีประสบการณ์ทำงานมามากกว่า 12 ปี ผ่านเคสที่ความยากและซับซ้อน มาอย่างมากมาย รวมถึงแก้ไขเคสที่มีปัญหาไปฉีดมาจากที่อื่นแล้วพังอีกด้วย และคุณหมอบอลเอง ยังเป็นเทรนเนอร์และได้รับเชิญเป็นวิทยากร ในการสอนแพทย์ฉีดฟิลเลอร์อีกด้วย